fbpx

ออกแบบบ้านผู้สูงอายุอย่างไรให้ปลอดภัย อยู่สบาย ใช้งานได้จริง

บ้านเป็นองค์ประกอบใหญ่ที่จะรวบรวมสมาชิกภายในครอบครัวให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข มีทั้งครอบครัวเล็กและครอบครัวใหญ่ มีปู่ย่าตายายอยู่รวมกับลูกหลาน การออกแบบบ้านให้ตอบสนองความต้องการและความสวยงามของสมาชิกได้ทั้งหมดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือความปลอดภัยภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยแล้วต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุจึงควรเน้นไปที่ความปลอดภัยและสามารถอำนวยความสะดวกสบายได้อย่างหลากหลาย ซึ่งทางเราก็มีแนวทางในการจัดบ้านเพื่อผู้สูงอายุมาฝากทุกท่าน

บ้านสำหรับผู้สูงอายุ

สิ่งที่ต้องคำนึง เมื่อออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ

ความปลอดภัยภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในบ้านของเรานั้นมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย เพราะจากข่าวมากมายที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุก็คือลื่นล้มในห้องน้ำ ตกจากบันไดสูง เป็นต้น ดังนั้น ในการสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้

  • คำนึงถึงความปลอดภัย เช่น การเลือกใช้พื้นกระเบื้องกันลื่นในห้องน้ำ หรือกระเบื้องที่เนื้อหยาบ ไม่ลื่นง่าย และไม่มีลวดลายเยอะ เพราะผู้สูงอายุอาจตาลายก้าวพลาดได้ หรือแม้กระทั่งการออกแบบความต่างระดับของพื้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • คำนึงถึงข้อจำกัดของแต่ละคน เช่น ผู้สูงอายุบางคนต้องใช้วีลแชร์ การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีอุปกรณ์เสริมในชีวิตประจำวันก็ควรช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้เช่นกัน ประตูต้องกว้าง มีทางลาดสำหรับการเข็นรถวีลแชร์ได้ง่าย เป็นต้น
  • คำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้อุปกรณ์ ผู้สูงอายุมักไม่ค่อยมีแรงเหมือนหนุ่มสาว การใช้อุปกรณ์หลายอย่างในบ้านก็ไม่ควรมีแรงต้านมากเกินไป อาทิ ลูกบิดประตูควรใช้แบบคันโยกเพื่อให้ง่ายต่อการเปิด ตำแหน่งของสวิตช์ไฟต้องอยู่ในระดับพอดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป หรือแม้กระทั่งการติดตั้งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ก็ควรมีเช่นเดียวกัน
  • คำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายนอก ต้นไม้ใบหญ้าที่มองเห็นได้จากตัวบ้านจะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้สูงอายุได้ บ้านจึงไม่ควรอับทึบ มีหน้าต่างใหญ่ ปลอดโปร่ง เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายตา
  • คำนึงถึงการจัดพื้นที่ในการเคลื่อนตัว การจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุไม่ควรมีของวางกีดขวางเยอะ เพราะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สะดุดล้มได้เช่นเดียวกัน บ้านควรโล่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ควรมีอุปกรณ์ช่วยสำหรับการก้าวเดินให้กับผู้สูงอายุได้ เช่น ราวจับ
สร้างบ้านผู้สูงอายุ

สร้าง 4 ห้องในบ้าน ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย

โดยหลักแล้วในแต่ละบ้านก็จะมีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพระ และห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทุกคนต้องได้ใช้เวลาในสถานที่นั้น ดังนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญก็คือการทำให้ห้องต่างๆ ในบ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยของผู้สูงอายุ หรือแม้แต่สมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านก็ด้วยเช่นกัน เราจึงมีหลักในการออกแบบบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุมาฝากกัน

ห้องนอน

ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอาจใช้เวลาอยู่นานสุด เพราะต้องพักผ่อนเยอะ เพื่อความสะดวกสบายของผู้สูงอายุ ห้องนอนก็ควรอยู่ชั้นล่างสุด เลี่ยงการเดินขึ้น-ลง บันได หรือหากห้องนอนอยู่ชั้นบน รางเลื่อนรถเข็นอัตโนมัติก็เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกได้เช่นกัน

นอกจากนี้ห้องนอนของผู้สูงอายุก็ควรโล่งโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีความเป็นส่วนตัว ใกล้กับห้องน้ำ และมีไฟติดรอบเตียงก็จะช่วยให้มองเห็นได้ง่ายมากขึ้น ป้องกันการหกล้มตอนกลางคืน อีกทั้งควรคำนึงถึงการจัดห้องนอนเพิ่มเติมคือ

พื้นกระเบื้อง

ควรเลือกพื้นที่มีความฝืด ไม่มันเงา หรือเป็นพื้นกระเบื้องที่เป็นยาง สามารถรองรับแรงกระแทกได้ก็จะดี เพราะจะช่วยป้องกันการลื่นล้ม หรือการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้

เตียงนอน

เตียงนอนของผู้สูงอายุไม่ควรต่ำหรือสูงจนเกินไป ความสูงที่ 40 – 50 ซม. ขนาด 3.5 ฟุต กำลังพอดี ไม่ต้องนุ่มหรือแข็งมาก เพราะจะทำให้ปวดหลัง ลุกนั่งลำบาก หากผู้สูงอายุต้องมีตัวช่วยสำหรับการลุกนั่ง เตียงไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

เฟอร์นิเจอร์

ของในห้องนอนผู้สูงอายุไม่ควรเยอะจนรก เน้นของจำเป็นเช่นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งก็เพียงพอ โดยเลือกตู้เสื้อผ้าที่ไม่สูงจนเกินไป สิ่งสำคัญคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอดี และไม่วางติดเตียง ให้มีพื้นที่โดยรอบสัก 90 ซม. จึงจะเหมาะสม หรือมีโต๊ะข้างเตียงเพื่อความสะดวกในการหยิบของ

ประตู

ให้เลือกประตูที่เป็นแบบบานเลื่อน มีระบบรางแขวนด้านบนเป็นตัวล็อก เพื่อเลี่ยงการใช้ประตูแบบที่มีธรณีประตู เพราะจะทำให้สะดุดล้ม หรือยากต่อการเข็นรถวีลแชร์ได้

ห้องน้ำ

การออกแบบห้องน้ำในบ้านสำหรับผู้สูงอายุควรดูที่วัสดุสำหรับกันลื่นเป็นหลัก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างมาก ให้แยกโซนเปียก โซนแห้งชัดเจน ขนาดห้องน้ำควรกว้างอย่างน้อย 200 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้รถเข็น มีแสงสว่างส่องเพียงพอ สิ่งสำคัญคือราวจับ และสัญญาณเตือนขอความช่วยเหลือที่ไม่ควรมองข้าม

พื้นกระเบื้อง

เช่นเดียวกับห้องนอนที่ควรเลือกใช้พื้นกระเบื้องแบบฝืด เพื่อป้องกันการลื่นล้ม และหากมีการแยกลายกระเบื้องของโซนเปียกและโซนแห้งในห้องน้ำออกจากกันได้อย่างชัดเจนก็จะดี เพื่อจะได้สังเกตง่าย

พื้นที่โซนแห้ง

ห้องน้ำโซนแห้งในบ้านสำหรับผู้สูงอายุให้เลือกใช้อ่างล้างหน้าที่สามารถรองรับน้ำหนักการวางแขนของผู้สูงอายุได้ หรือเลือกที่รูปแบบเว้า เพื่อให้ง่ายต่อการนำรถเข็นเข้า ก็อกน้ำให้ใช้แบบคันโยกเพื่อทุ่นแรงการเปิด และเลือกกระจกที่ความสูงพอดีกับผู้สูงอายุ

พื้นที่โซนเปียก

หากมีที่นั่งสำหรับอาบน้ำให้ผู้สูงอายุก็จะดีมาก เน้นความแข็งแรง ให้ดูขนาดและความสูงที่เหมาะสม ฝักบัวสำหรับอาบน้ำควรใช้แบบที่ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และติดไว้ในบริเวณที่หยิบจับง่าย ใช้ตัวเปิดก็อกแบบคันโยก และมีราวจับบริเวณพื้นที่อาบน้ำก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุได้

สุขภัณฑ์

ให้เลือกโถสุขภัณฑ์ที่เป็นแบบนั่งราบ ให้ลุกนั่งง่าย ติดราวจับไว้ข้างๆ เพื่อช่วยพยุงตัว ไม่ติดตั้งสายชำระหรือแกนกระดาษทิชชู่ไกลเกินไป ให้ทุกอย่างอยู่ในระยะที่เหมาะสม

ประตู

ประตูห้องน้ำในบ้านของผู้สูงอายุควรมีความกว้างเหมือนประตูห้องนอน เพราะอาจต้องนำรถเข็นเข้าไปด้วย ให้ใช้แบบบานเลื่อนหรือเปิดออกเพื่อให้ง่ายต่อการเปิด และใช้มือจับประตูแบบคันโยก เพื่อเบาแรงของผู้สูงอายุในการหมุนลูกบิดประตู

ออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ

ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นในบ้านสำหรับผู้สูงอายุอยู่ควรเน้นไปที่การมีแสงสว่างรอบด้านเพียงพอ จะช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด ห้องนั่งเล่นควรโล่งและกว้าง พยายามจัดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ เพื่อที่จะได้ป้องกันอุบัติเหตุเดินชนจนได้รับบาดเจ็บ

พื้นกระเบื้อง

การเลือกใช้พื้นสีสว่างในห้องนั่งเล่นจะช่วยทำให้บ้านดูปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้มองเห็นเศษต่างๆ ที่ตกบนพื้นได้ชัดเจนมากกว่าพื้นสีทึบ จะได้ช่วยป้องกันผู้สูงอายุมองไม่เห็นชัดเจนจนก้าวพลาดหรือเหยียบของที่ตกบนพื้นจนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ในการออกแบบห้องนั่งเล่นในบ้านสำหรับผู้สูงอายุก็ไม่ควรปูพรม เพราะจะทำให้สะดุดล้มได้

เฟอร์นิเจอร์

เฟอร์นิเจอร์ที่ควรเลือกใช้ในห้องนั่งเล่นควรเป็นประเภทลบมุมเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ส่วนพวกโซฟาควรเลือกแบบที่มีพนักพิงแขนไว้สำหรับพยุงตัวลุกขึ้น เบาะไม่ควรนิ่มหรือแข็งจนเกินไป อีกเทคนิคในการจัดห้องนั่งเล่นในบ้านเพื่อผู้สูงอายุคือให้หันโซฟาเข้าหากัน จะได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวนั่นเอง

ประตู หน้าต่าง

ห้องนั่งเล่นควรเลือกใช้ประตูที่กว้าง มีบานเลื่อนจากด้านบนเพื่อจะได้เข็นรถวีลแชร์เข้าได้ง่าย และไม่ทำให้สะดุดล้ม เลือกใช้หน้าต่างบานลึก เพราะจะทำให้เห็นวิวด้านนอกได้ดี และเป็นการรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาในบ้าน ทำให้ไม่อึมครึมด้วย หากแสงจ้าให้ใช้ม่านปิดเพื่อลดแสงที่เข้ามาในบ้าน

ห้องพระ

ห้องพระในบ้านนับเป็นอีกห้องที่ผู้สูงอายุใช้งานบ่อย การออกแบบห้องพระในบ้านสำหรับผู้สูงอายุจะเน้นไปที่ความโล่ง อากาศถ่ายเท และอาจเลือกใช้โทนสีขาวหรือสีอ่อนเพราะเป็นสีที่ทำให้รู้สึกสบายและสงบ หากมีแสงเข้าก็จะทำให้ห้องดูไม่ทึบ หรืออึดอัดเกินไปด้วย

พื้นกระเบื้อง

สำหรับผู้สูงอายุที่ชอบนั่งสวดมนต์หรือนั่งสมาธิ การเลือกพื้นกระเบื้องไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไปก็จะทำให้นั่งได้นานมากขึ้น เช่นเดิมคือเลี่ยงพื้นลื่นๆ เพื่อลดอุบัติเหตุ และไม่ควรเลือกใช้พื้นพรมหรือพื้นไม้ เพราะหากมีการจุดธูปหรือเทียน จะทำให้ติดไฟได้ง่าย

ชุดบูชาพระ

การจัดชุดบูชาพระควรวางในระดับความสูงที่ไม่มากเกินไป จะทำให้ยากต่อการหยิบจับและอาจทำให้ของจากชั้นวางบูชาพระร่วงใส่ผู้สูงอายุได้ วางชุดบูชาพระให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และเชื่อกันว่าไม่ควรจัดให้ตรงกับประตูหรือทิศกาลกิณีของเจ้าบ้าน นอกจากนี้ อาจเลือกใช้ไฟปลอม เทียนปลอมแทน เพื่อป้องกันอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

เฟอร์นิเจอร์

หากมีเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้เก็บของต่างๆ ภายในห้องพระให้เป็นระเบียบ และยังออกแบบได้กลมกลืนกับความเรียบหรูของห้องพระก็จะทำให้ห้องดูสวยงามมากขึ้น การเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องพระนี้สามารถเลือกได้ตามความพอใจและความเหมาะสม แต่ต้องไม่ลืมที่จะดูพวกเก้าอี้นั่งหรือโซฟาเดี่ยวไว้สำหรับผู้สูงอายุนั่งสวดมนต์หรือทำสมาธิในห้องพระด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนอาจจะนั่งพับเพียบที่พื้นได้ลำบากหรือไม่สะดวกนัก

บ้านเพื่อผู้สูงอายุ

ออกแบบบันได กรณีบ้าน 2 ชั้น

บ้าน 2 ชั้นที่มีบันไดก็สามารถออกแบบฟังก์ชันนี้ให้เข้ากับตัวบ้านสำหรับผู้สูงอายุอยู่ได้เช่นกัน โดยจะเน้นไปที่การออกแบบบันได และอุปกรณ์เสริมอย่างลิฟต์บันได ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในการขึ้น-ลงบ้านได้ง่ายมากขึ้น โดยหลักความปลอดภัยของบันไดและลิฟต์บันได มีดังนี้

พื้นที่ขึ้นลงบันได

บันไดบ้านที่มีผู้สูงอายุ ควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 90 ซม. ต้องวางเท้าได้ทั้งเท้าเพื่อความปลอดภัยในการก้าวพลาด คือต้องมีความกว้างของลูกนอนไม่ต่ำกว่า 30 ซม. และความสูงของขั้นบันไดประมาณ 13 – 15 ซม. จึงจะพอดีกับการก้าวเดินของผู้สูงอายุ อีกทั้งควรมีราวจับที่พอเหมาะ เพื่อให้ผู้สูงสามารถกำราวบันไดได้ทั้งมือด้วย จะปลอดภัยมากขึ้น

ลิฟต์บันได

ลิฟต์บันไดจะทำให้การขึ้น-ลงบ้านของผู้สูงอายุทำได้สะดวกมากขึ้น เพราะสามารถนั่งแล้วใช้ไฟฟ้าเลื่อนขึ้นหรือลงตามต้องการได้ ให้เลือกลิฟต์บันไดที่รางมีความยาว 5 เมตร เมื่อติดตั้งแล้วตัวรางจะยื่นออกจากบันไดเพียง 15 ซม. และต้องมีระยะห่างจากศีรษะถึงเพดานที่อย่างน้อย 71 ซม. และควรดูการรับน้ำหนักด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

นอกจากหลักในการออกแบบหรือตกแต่งห้องต่างๆ ที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยแล้ว อีกหนึ่งส่วนที่อยากแนะนำสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุคือ การติดตั้งเครื่อง Fall Detection หรือเครื่องตรวจจับการล้มไว้ในบ้าน ในหลายๆ ห้อง เพื่อที่จะได้ทราบได้ทันเมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้น เพื่อสวัสดิภาพที่ดียิ่งขึ้นของคนที่คุณรัก

สรุป

การออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุจะทำให้บ้านมีความปลอดภัยมากขึ้น ช่วยลดอุบัติเหตุ และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้อย่างมากมาย การสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุควรคำนึงถึงความปลอดภัย ข้อจำกัดของแต่ละคน สภาพแวดล้อม และความสะดวกสบายเป็นหลัก เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ อย่ามองข้ามการเลือกพื้นกระเบื้องกันลื่นและรองรับแรงกระแทก หรือการติดสัญญาณขอความช่วยเหลือเพราะจะช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉินได้มาก ซึ่งแนวคิดในการจัดบ้านเพื่อผู้สูงอายุนี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับบ้านตนเองได้

You May Also Like

ที่ดินเปล่า

ลงทุนซื้อ ‘ที่ดินเปล่า’ คืออะไร แล้วมีวิธีซื้อขายที่ดินเปล่ายังไงให้คุ้มค่า

หลายคนอยากลงทุนอสังหาฯ เป็นบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม แต่รู้ไหมว่าการลงทุนที่ดินเปล่าก็เป็นที่นิยม และน่าสนใจเช่นกัน แล้วควรซื้อที่ดินจัดสรรดีไหม หาคำตอบได้ที่นี่

ซื้อบ้านจัดสรร

การซื้อบ้านจัดสรรดียังไง หลักการซื้อบ้าน และสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

สำหรับใครที่อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านจัดสรรเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการตัดสินใจ มาดู การซื้อบ้านจัดสรรดีอย่างไร และทิปที่ควรรู้ก่อนซื้อ

การดูแลสุขภาพ

ดูแลสุขภาพอย่างไร? ให้ดีทั้งกายและจิต ห่างไกลโรคภัยแบบยั่งยืน

การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นดูแลตนเอง หรือคนอื่น โดยควรทำควบคู่กัน เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี

สวนดอกไม้ที่เขาค้อ

7 สวนดอกไม้เขาค้อ ขึ้นเหนือไปถ่ายรูปทำคอนเทนต์ รับลมหนาวตลอดปี

เขาค้อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุด เพลิดเพลินไปกับสวนดอกไม้สวยๆ ทุ่งดอกไม้นานาชนิด ท่ามกลางอากาศเย็นสบายกลิ่นอายความเป็นยุโรป

ถ่ายพรีเวดดิ้งเขาค้อ

9 สถานที่พรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ สวยโรแมนติก ได้ภาพหลายมุม

การถ่ายพรีเวดดิ้งมักจะสะท้อนความเป็นตัวเองของคู่บ่าวสาว บทความนี้จะมาแนะนำสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ให้คู่บ่าวสาวได้เลือกไปถ่ายรูปหวานๆ กัน

สร้างบ้านติดเขาดีไหม

สร้างบ้านบนภูเขาดีไหม? ข้อควรรู้หากอยากมีบ้านบนภูเขา

การจะมีบ้านบนภูเขา ใกล้ชิดธรรมชาติได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการสร้างบ้านอยู่ท่ามกลางป่าได้ ต้องรู้จักข้อควรรู้ก่อน เพื่อให้บ้านมีความปลอดภัย

MAKE AN APPOINTMENT