ลงทุนซื้อ ‘ที่ดินเปล่า’ คืออะไร แล้วมีวิธีซื้อขายที่ดินเปล่ายังไงให้คุ้มค่า
หลายคนอยากลงทุนอสังหาฯ เป็นบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม แต่รู้ไหมว่าการลงทุนที่ดินเปล่าก็เป็นที่นิยม และน่าสนใจเช่นกัน แล้วควรซื้อที่ดินจัดสรรดีไหม หาคำตอบได้ที่นี่
เมื่อคู่รักตกลงปลงใจที่จะเข้าสู่ประตูวิวาห์ ความท้าทายที่ต้องเจอของว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคืองานแต่งงาน ซึ่งเป็นพิธีการที่จะประกาศความรักของพวกเขาให้กับคนใกล้ตัวและคนรอบตัวได้รับรู้ แต่อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการถ่ายพรีเวดดิ้ง เสมือนเป็นการเก็บภาพความประทับใจและโมเมนต์ที่มีแต่เราสองเอาไว้ โดยทุกวันนี้การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมีหลายรูปแบบ ทั้งถ่ายแบบไลฟ์สไตล์ ถ่ายที่สตูดิโอ รวมถึงการถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
อีกทั้งในประเทศไทยมีสถานที่สวยๆ หลายแห่งที่เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง โดยเฉพาะ 9 สถานที่พรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติต่อไปนี้ที่คู่รักต้องไปเยือน เพราะเป็นสถานที่ที่สวยงาม โรแมนติก และได้ภาพหลายมุมให้คุณได้เก็บโมเมนต์ดีๆ เอาไว้ไม่มีวันหมดแน่นอน
ดินแดนแห่งเทพนิยาย The Blue Sky Garden สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ที่จะทำให้คู่บ่าวสาวกลายเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายทันทีเมื่อมาเยือนสถานที่แห่งนี้ ด้วยรูปแบบจัดแต่งสถานที่เป็นสวนสวยสไตล์อังกฤษที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย
โดยมีทั้งโซนที่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างสวนสีเขียวขจี โซนดอกไม้ขนาดใหญ่ในเขาค้อ จุดชมวิว 360 องศา หรือโซนอาคารสไตล์ยุโรป ซึ่งอาณาเขตของสวนแห่งนี้กว้างขวางหลายสิบไร่จึงทำให้คู่รักได้ภาพสวยๆ กลับไปหลายมุมเลยทีเดียว อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดธีมสวนที่เปลี่ยนไปทุกฤดูกาล จึงทำให้คู่บ่าวสาวได้ภาพไม่ซ้ำกับคู่รักคู่อื่นๆ
นอกจากนี้ยังเดินทางมาง่ายมาก หากมาจากกรุงเทพฯ ก็สามารถขับรถมาถึงเพชรบูรณ์ได้เลย เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งเขาค้อ ณ The Blue Sky Garden โดยภายในสวนมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หรือจะนอนพักก็สามารถจองที่พักของThe BlueSky Resort KhaoKho ได้เลย นับว่าเป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่สะดวกสบายที่สุด
พาว่าที่บ่าวสาวมาเช็กอินยัง LATOSCANA RESORT สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลกรุง อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีสถานที่แนวธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะ LATOSCANA RESORT (ลาทอสคานา) ซึ่งได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศที่ต่างประเทศ
โดยรูปแบบการตกแต่งรีสอร์ทที่ออกแบบให้เหมือนหลุดเข้าไปแคว้นทัสคานี เมืองชนบทในอิตาลีตอนกลาง ซึ่งเน้นต้นไม้เขียวขจี สลับกับเนินเขาลูกเล็กลูกน้อย ตัดกับหมอกสวยๆ ยามเช้าจะให้ภาพพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่สวยงาม
จึงเหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบธรรมชาติ รักความสงบ และยังต้องการที่พักตากอากาศเงียบๆ ก็สามารถมาเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ เพราะนอกจะได้ภาพสวยๆ กลับไปยังเหมือนเป็นการรีชาร์ทความสดชื่นให้กับร่างกายอีกด้วย
สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติกลางกรุง บนเนื้อที่ 500 ไร่ สถานที่ยอดฮิตที่เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากได้ภาพฟีลธรรมชาติแต่ไม่อยากเดินทางไกล ซึ่งสวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานครเป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ตอบโจทย์คู่รักมากที่สุด
ภายในมีหลายโซนที่ตอบโจทย์กับคู่รักหลายๆ คู่ อาทิ โซนสวนพฤกษศาสตร์ซึ่งให้ความรู้สึกอยู่กับธรรมชาติแบบจริงๆ หรือสวนรมณีย์ที่มีน้ำตก ธารน้ำสวยๆ โอบล้อมด้วยสีเขียวขจีของต้นไม้ และหากอยากได้ความรู้สึกที่สดชื่นและชุ่มฉ่ำก็ยังมีโซนสวนน้ำที่มีน้ำพุตั้งตระหง่านอยู่
โดยคู่รักหลายคู่เลือกมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่สวนหลวง ร.9 ในช่วงเวลาเช้าตรู่ ไม่เกินเที่ยงเนื่องจากคนไม่พลุกพล่าน รวมถึงอย่าลืมระวังในเรื่องของดินฟ้าอากาศในกรุงเทพที่ค่อนข้างแปรปรวน และแสงแดดที่จะทำให้ภาพแข็งไม่สวยเหมือนถ่ายที่ต่างจังหวัด
ทะเล ภูเขาครบจบในที่เดียว ต้องมาที่อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า จ.ระยอง ซึ่งคู่บ่าวสาวอาจจะต้องเดินทางไกลสักหน่อย แต่ถ้าแลกกับบรรยากาศสวยๆ บนภูเขาที่มีเบื้องหลัง เป็นทะเลนั้นนับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
จุดเด่นคือน้ำทะเลใสมาก และยังมีมุมพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่หลากหลายและไม่ซ้ำกับคู่รักคู่อื่น ทั้งสะพานเรือที่ทอดยาวเห็นน้ำทะเลใสๆ วิวหน้าผาโอบล้อมด้วยทะเลสีฟ้าคราม ทางเดินไม้ที่ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติแบบสุดๆ หากต้องการเน้นใกล้ชิดธรรมชาติขึ้นอีกก็สามารถถ่ายกับทุ่งหญ้าสวยๆ ได้เลย
อย่างไรก็ตามอย่าลืมคำนึงถึงสถานที่สำหรับแต่งหน้า เปลี่ยนชุดที่ไม่เอื้ออำนวยขนาดนั้น อาจจะต้องแต่งหน้าเองหรือเซตสถานที่สำหรับแต่งหน้า และเปลี่ยนชุดในห้องน้ำแทน เนื่องจากเป็นพื้นที่อุทยานสิ่งอำนวยความสะดวกจะน้อยกว่า
อิตาลีที่เมืองไทยต้องพาไปเยือน Positano จังหวัดนครราชสีมา สถานที่พรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่จำลองบรรยากาศมาจาก Positano หมู่บ้านสุดโรแมนติกชายฝั่งอิตาลี ซึ่งรีสอร์ทสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาเนื้อที่ทั้งภูเขากว่า 220 ไร่ จึงทำให้ภาพพรีเวดดิ้งที่ออกมาเห็นวิวขุนเขาแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกก็ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่ต่างกัน ยิ่งถ้าหากมาเยือน ณ สถานที่แห่งนี้ในช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะเห็นหมอกสวยๆ ได้ภาพที่ดูงดงามไปอีกแบบ
โดยคู่บ่าวสาวสามารถขับรถมาเองได้เลย และจองห้องพักก็สะดวกสบายจะได้รับการบริการสุดหรูพร้อมบรรยากาศดีๆ ที่เสมือนเป็นการเติมความหวานให้่กันและกัน
The Birder’s Lodge จ.นครราชสีมา รีสอร์ทและร้านอาหารสุดเก๋ที่เขาใหญ่ นับว่าเป็นจุดเช็กพอยน์สำคัญที่หลายคู่รักชอบมาพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ เพราะว่าได้รูปถ่ายทั้งหวาน ทั้งเท่ และไม่ซ้ำใคร เนื่องจากมีทั้งกระท่อมไม้สไตล์ยุโรปแท้ ร้านกาแฟในบรรยากาศสวนยุโรป ผนวกกับกับอาคารทรงโมเดิร์น แบบคอนเทมโพราลี่แบบฟรีฟอร์ม โอบล้อมด้วยป่า ด้วยเขาที่บรรยากาศสุดแสนจะเอื้ออำนวยให้คู่รักหลายๆ คู่เลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งธรรมชาติเป็นที่นี่
นอกจากนี้สำหรับคู่รักที่สนใจจองห้องพัก ที่พักยังสามารถเป็นอีกจุดหนึ่งสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งได้ เนื่องจากมีดีไซน์เป็นทระท่อมไม้ขนาดเล็กๆ ที่เห็นวิวธรรมชาติเขียวขจีอย่างชัดเจน และเห็นภูเขาอยู่ไม่ไกลให้ความรู้สึกสดชื่นอีกรูปแบบ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเป็น The Birder’s Lodge
อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลกรุง ได้ฟีลธรรมชาติสีเขียวอย่างแท้จริง นั่นก็คือบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ หนึ่งในโอโซนสำคัญที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มาพร้อมกิจกรรมมากมายที่สามารถทำได้ทั้งปั่นจักรยาน พายเรือ หาของกินอร่อยหรือแม้กระทั่งการถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติก็มาทำที่นี่ได้
โดยโซนสำหรับถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก็มีให้เลือกมากมายทั้งสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ที่มีหอดูนกสวยๆ ท่ามกลางแมกไม้ และยังได้ภาพแบบ Bird eye view หรืออยากได้ภาพริมคลองเก๋ๆ ก็มาได้ตรงโซนตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง หรือจุดถ่ายภาพสวยๆ อีกหนึ่งแห่งตรงอุโมงค์ต้นไม้ ก็เป็นไฮไลต์สำคัญที่คู่รักมักจะเลือกมาถ่ายภาพด้วยกัน
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กว่า 200 ต้น ที่เรียงรายกันจนกลายเป็นถนนชมพูพันธุ์ทิพย์ เมื่อดอกเบ่งบานจึงมีแต่สีชมพูสดใส เพราะสีชมพูมักจะหมายถึงความรัก จึงเหมาะมากกับการมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ สำหรับคู่รักคู่ไหนที่จะไปถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ เพื่อเก็บสวยงามไว้ในรูปตราบนานเท่านาน ไม่ต้องกลัวความสวยของชมพูพันธุ์ทิพย์จะโรยรา ก็สามารถมายัง ม.เกษตร กำแพงแสนได้เลย แต่ชมพูพันธุ์ทิพย์นั้นจะออกดอกบานสะพรั่งเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น
หันมาหาสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งธรรมชาติแนวทุ่งดอกไม้ อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับภาพพรีเวดดิ้งที่สวย สะดุดตาก็คือทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีทุ่งทานตะวันให้เลือกหลายที่มากๆ โดยอำเภอที่มีทุ่งทานตะวันอยู่มากมายก็คืออำเภอเมืองและอำเภอพัฒนานิคม โดยต้องมาในช่วงพฤศจิกายน – มกราคม 2566 เท่านั้นถึงจะมีทุ่งทานตะวันสวยๆ ให้ได้เห็น ซึ่งคู่รักจะได้ภาพชุดแต่งงานสีขาวตัดกับดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสท่ามกลางท้องฟ้าที่คราม
โดยแต่ละคู่รักสามารถเลือกทุ่งทานตะวันสวยๆ ได้ด้วยตนเองเพราะจังหวัดลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นทานตะวันมากที่สุดในประเทศไทย กินพื้นที่การปลูกทั่วจังหวัดไปแล้วกว่าหมื่นไร่ ดังนั้นจึงมีไร่ทานตะวันสวยๆ สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ให้เลือกไม่ซ้ำมุมอย่างแน่นอน
สรุป
การถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติยังเป็นรูปแบบการถ่ายพรีเวดดิ้งที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาพถ่ายเหล่านั้นได้สะท้อนความสวยงามของธรรมชาติในแต่ละสถานที่ออกมาได้อย่างงดงาม
ถึงแม้จะเป็นสถานที่เดียวกัน แต่ด้วยแสงหรือเวลาในการถ่ายที่แตกต่างออกไป ความรู้สึกของภาพก็ย่อมแตกต่างออกไปด้วย
อย่างไรก็ตามสถานที่แนวธรรมชาติแต่ละที่มีความแตกต่างกัน คู่รักบางคนอชอบภูเขา บางคนชอบทะแล หรือบางคนชอบทุ่งดอกไม้ ซึ่งแต่ละสถานที่ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมเป็นหลัก แต่เมื่อได้รูปออกมาคือทุกคนความรู้สึกหนึ่งที่ตรงกันแน่นอนก็คือความประทับใจ ทำให้รูปพรีเวดดิ้งนั้นๆ เป็นรูปที่นำมาดูเมื่อไรก็ทำให้นึกึงภาพความทรงจำและยิ้มได้อยู่เสมอ
หลายคนอยากลงทุนอสังหาฯ เป็นบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม แต่รู้ไหมว่าการลงทุนที่ดินเปล่าก็เป็นที่นิยม และน่าสนใจเช่นกัน แล้วควรซื้อที่ดินจัดสรรดีไหม หาคำตอบได้ที่นี่
สำหรับใครที่อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านจัดสรรเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการตัดสินใจ มาดู การซื้อบ้านจัดสรรดีอย่างไร และทิปที่ควรรู้ก่อนซื้อ
การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นดูแลตนเอง หรือคนอื่น โดยควรทำควบคู่กัน เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี
เขาค้อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุด เพลิดเพลินไปกับสวนดอกไม้สวยๆ ทุ่งดอกไม้นานาชนิด ท่ามกลางอากาศเย็นสบายกลิ่นอายความเป็นยุโรป
การถ่ายพรีเวดดิ้งมักจะสะท้อนความเป็นตัวเองของคู่บ่าวสาว บทความนี้จะมาแนะนำสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ให้คู่บ่าวสาวได้เลือกไปถ่ายรูปหวานๆ กัน
การจะมีบ้านบนภูเขา ใกล้ชิดธรรมชาติได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการสร้างบ้านอยู่ท่ามกลางป่าได้ ต้องรู้จักข้อควรรู้ก่อน เพื่อให้บ้านมีความปลอดภัย